TIGER 900
เหตุผลที่ควรขี่
รถจักรยานยนต์ adventure รุ่นน้ำหนักปานกลางที่มีความสามารถรอบด้าน คล่องตัว และมีไดนามิกที่สุดในปัจจุบัน
ในโลกที่ผู้คนต่างให้ความสำคัญกับประสบการณ์มากพอๆ กับการได้ครอบครอง Tiger 900 คือรถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมขีดความสามารถ เครื่องยนต์ โครงรถ และสไตล์ adventure ที่ดุดัน เพื่อให้คุณมีเสรีภาพในการออกผจญภัยตามที่ใจของคุณปรารถนา
น้ำหนักเบากว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด พร้อมมาตรฐานด้านสเปคอันน่าทึ่ง กลุ่มรถ Tiger 900 สามารถสร้างมาตรฐานใหม่ได้ในฐานะรถจักรยานยนต์ adventure รุ่นน้ำหนักปานกลางที่มีความสามารถรอบด้าน คล่องตัว และมีไดนามิกที่สุด นี่คือเหตุผลที่คุณควรทดลองขี่ตั้งแต่วันนี้!
1. ตัวเลือกรถ ADVENTURE จุดเร้าใจ
คุณต้องการรถจักรยานยนต์ adventure ที่เครื่องแรง มาพร้อมเทคโนโลยี ขีดความสามารถ และความสะดวกสบายสำหรับใช้งานบนท้องถนนอย่างครบครันหรือไม่ ถ้าใช่ Tiger 900 GT คือรถจักรยานยนต์ที่ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด หรือคุณต้องการทั้งหมดนั้น พ่วงด้วยความสามารถในการใช้งานบนทางวิบาก เพื่อให้คุณออกผจญภัยได้อย่างมั่นใจแม้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด หากใช่ รถจักรยานยนต์ Tiger 900 Rally คือตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
Tiger 900 GT - ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยในเมืองอย่างเต็มที่ รวมถึงการเดินทางไกล และการใช้งานทุกรูปแบบ Tiger 900 GT มีสมรรถนะ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ครบครัน เพื่อให้การขับขี่ทุกๆ ครั้งของคุณเป็นไปอย่างมั่นใจและเร้าใจ
Tiger 900 Rally - รถจักรยานยนต์ที่ล้ำสมัยที่สุดของเรา ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยบนทางวิบากอย่างเต็มที่ และความสามารถในการใช้งาน การควบคุม และความสะดวกสบาย เพื่อให้ขี่ได้ตลอดทั้งวัน รถจักรยานยนต์ Tiger 900 Rally สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการบังคับรถ สเปค และสไตล์
2. เครื่องยนต์สามสูบ 900 cc
เครื่องยนต์สามสูบ 900 cc มาตรฐาน Euro 5 ที่มาตรฐานสูงขึ้น ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้กับ Tiger 900 มีการใช้ลำดับการจุดระเบิดแบบใหม่ เพื่อให้ประสบการณ์การขับขี่ Tiger นั้นเป็นไปอย่างสนุกยิ่งขึ้น โดยมีกำลังเพิ่มขึ้น สูงสุด 9% ตลอดทุกช่วงรอบ และกำลังสูงสุดโดยรวมที่สูงถึง 95 PS @ 9,000 rpm รวมทั้งแรงบิดสูงสุดที่มากกว่า Tiger 800 รุ่นก่อนหน้าถึง 10% ลำดับการจุดระเบิดแบบใหม่ของ Tiger 900 ช่วยให้คุณลักษณะและเสียงของเครื่องยนต์นั้นดียิ่งกว่าเดิม จนได้เสียงเครื่องยนต์สามสูบที่ดุดันและเร้าใจ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังได้รับการพัฒนาสมรรถนะระบบหล่อเย็น จากการใช้หม้อน้ำคู่แบบใหม่ ซึ่งช่วยให้การจัดการการไหลเวียนของอากาศดียิ่งขึ้น สามารถลดระดับความร้อนรอบๆ ที่ผู้ขี่สัมผัสได้ให้ต่ำลง และลดปริมาณสารหล่อเย็นที่ใช้งานได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย เราจึงออกแบบกรองอากาศแบบใหม่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และเปลี่ยนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
3. โครงรถแบบใหม่ล่าสุด
ความคล่องตัวและขีดความสามารถสูงสุด พร้อมการบังคับรถที่โดดเด่น – Tiger 900 นั้นมีน้ำหนักโดยรวมเบาลงถึง 5 กก. การผสมผสานระหว่างเฟรมโมดูลาที่มีน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ที่น้ำหนักเบาลง ระบบกันสะเทือนสเปคสูง และเบรกพรีเมียมระดับชั้นนำของ Brembo ช่วยเปลี่ยนแปลงรถคันนี้ให้ดียิ่งขึ้นทั้งในด้านความคล่องตัวและขีดความสามารถ จึงมั่นใจได้ว่าการบังคับรถจะยอดเยี่ยมในทุกสถานการณ์ ศูนย์ถ่วงของ Tiger 900 แต่ละคันนั้นได้รับการแก้ไข โดยย้ายไปด้านหน้าอีก 40 มม. และลดต่ำลง 20 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 800 เพื่อให้กระกระจายน้ำหนักระหว่างล้อหน้าและหลังนั้นดียิ่งขึ้น รวมทั้งมีสมดุลขณะใช้ความเร็วต่ำดียิ่งขึ้นในทุกสถานการณ์การขับขี่ โดยยังคงรักษาระยะห่างจากพื้นดินอันยอดเยี่ยมของรุ่น Tiger เอาไว้ได้เช่นเดิม
หลักสรีรศาสตร์ที่ดียิ่งขึ้น – ตำแหน่งยืนคร่อมรถที่แคบลง ช่วยให้ผู้ขี่รู้สึกสบายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการออกตัวและหยุดรถ แฮนด์รถจะอยู่ใกล้ผู้ขี่มากขึ้นอีก 10 มม. เพื่อตำแหน่งการขับขี่ที่นั่งหลังตรงและสบายขึ้น รวมถึงตำแหน่งที่พักเท้าเฉพาะตัวของ Tiger 900 แต่ละรุ่น ก็ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่
ปรับความสูงเบาะนั่งได้ – ทุกรุ่นจะมีกลไกปรับความสูงเบาะนั่งสองตำแหน่งในตัวที่ใช้งานง่าย ซึ่งผู้ขี่จะสามารถเปลี่ยนความสูงเบาะนั่งได้ 20 มม. ตามความต้องการ Tiger 900, Tiger 900 GT และ Tiger 900 GT Pro จะมีความสูงเบาะนั่ง 820 – 840 มม., Tiger 900 Rally และ Tiger 900 Rally Pro จะมีความสูงเบาะนั่ง 860 – 880 มม. และ Tiger 900 GT รุ่น Low Ride Height จะมีความสูงเบาะนั่ง 770 – 790 มม.
4. ระบบกันสะเทือนและเบรกเฉพาะรุ่น
Tiger 900 และ Tiger 900 GT - จะมีระบบกันสะเทือนเฉพาะรุ่น เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถจักรยานยนต์ adventure รุ่นน้ำหนักปานกลางทั้งเซกเมนต์
รุ่น 900 และ GT จะใช้โช้คหน้าหัวกลับของ Marzocchi ขนาด 45 มม. ซึ่งมีระยะยุบตัวล้อ 180 มม. ในรุ่น GT และ GT Pro จะรองรับการปรับตั้งการยุบตัวและการคืนตัวแบบแมนนวล
ระบบกันสะเทือนหลังจะมีระยะยุบตัวล้อ 170 มม. และในรุ่น GT ยังรองรับการปรับตั้งการยุบตัวและการคืนตัวแบบแมนนวลอีกด้วย
RSU ของรุ่นท็อป GT Pro จะใช้ชุดกันสะเทือนที่ปรับตั้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งพัฒนาขึ้นร่วมกับ Marzocchi
Tiger 900 Rally - เพื่อให้สมกับสมรรถนะการใช้งานบนทางวิบากขั้นสูงของกลุ่มรถ Tiger 900 เราจึงเลือกใช้ระบบกันสะเทือนของ Showa ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่สุดในด้านขีดความสามารถของระบบกันสะเทือน
Tiger 900 Rally ทั้งสองรุ่นจะใช้โช้คหัวกลับของ Showa ขนาด 45 มม. ซึ่งสามารถปรับตั้งพรีโหลด การยุบตัว และการคืนตัวแบบแมนนวลได้ และมีระยะยุบตัวล้อ 240 มม. ล้อหลังจะใช้โช้คแก๊ส RSU ที่สามารถปรับตั้งค่าพรีโหลดและการคืนตัวได้ พร้อมระยะยุบตัวล้อ 230 มม.
รถจักรยานยนต์ทุกคันในกลุ่มรถ Tiger 900 จะมีระบบเบรกระดับชั้นนำ ซึ่งใช้เบรกตัวท็อปสำหรับการใช้งานบนท้องถนนของ Brembo Stylema® คาลิปเปอร์ชุดนี้เป็นคาลิปเปอร์ที่สมรรถนะสูงสุด น้ำหนักเบาสุด ขนาดกะทัดรัด และสั่งผลิตขึ้นอย่างประณีตของ Brembo ด้วยปริมาตรที่ลดลงรอบๆ ลูกสูบและผ้าเบรก ส่งผลให้น้ำมันเบรกใช้พื้นที่ภายในน้อยลง และสามารถตอบสนองได้รวดเร็วยิ่่งขึ้น และยังช่วยให้อากาศไกลเวียนรอบๆ ผ้าเบรกได้ดีขึ้น คาลิปเปอร์จึงเย็นเร็วขึ้น และมีสมรรถนะสูงขึ้น
5. เทคโนโลยีล้ำสมัย
เราได้ทำการเพิ่มนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีต่างๆ ให้กับกลุ่มรถจักรยานยนต์ Tiger 900
Tiger 900 รุ่น GT และ Rally ซึ่งเป็นตัวกลางและตัวท็อป จะใช้แผงหน้าปัด TFT full-colour ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งจะแสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน พร้อม ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนที่ช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้ง เพื่อสัมผัสด้านการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น รถกลุ่มนี้จะมีโหมดการขี่หกโหมด เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการขับขี่ของคุณ และเทคโนโลยีหลักของรุ่น GT และ Rally ทุกคันยังอยู่ในระดับสูง อาทิ ระบบไฟ LED ทั้งคัน, ปลอกมือจับไฟฟ้า, ระบบควบคุมความเร็วคงที่, แฮนด์การ์ด และช่องเก็บโทรศัพท์มือถือที่รัดกุมพร้อมที่ชาร์จไฟ
เทคโนโลยีระดับท็อปสำหรับรุ่น GT Pro และ Rally Pro ได้แก่ ระบบเชื่อมต่อ My Triumph ในตัว พร้อมโมดูล Bluetooth® ที่ติดตั้งไว้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ ควบคุมเพลง ใช้ระบบนำทางแบบละเอียดตลอดเส้นทาง และควบคุม GoPro ได้ผ่านสวิตช์ควบคุม ซึ่งจะมีการแสดงผลบนแผงหน้าปัด TFT และยังมีระบบเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ของ Triumph ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มและลดเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์ รวมทั้งระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้ขี่ นอกจากนี้ ก็ยังมีเบาะนั่งปรับอุณหภูมิไฟฟ้าทั้งของผู้ขี่และผู้โดยสาร และไฟตัดหมอก LED ที่ติดตั้งไว้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย
6. สไตล์และความดุดันแบบใหม่ล่าสุด
นอกจากจะได้รับการดีไซน์ใหม่หมดแล้ว งานตัวถังใหม่ของ Tiger นี้ยังได้รับการแก้ไขงานพื้นผิว พร้อมเส้นสายที่ดูเนี้ยบยิ่งขึ้น เพื่อให้ Tiger 900 นั้นมีความโดดเด่นและมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามแบบ adventure มากยิ่งขึ้น โดยแต่ละรุ่นจะได้รับการเสริมรายละเอียดและการตกแต่งที่เน้นความอเนกประสงค์ในการใช้งานทั้งบนท้องถนนและบนทางวิบาก
เพื่อเน้นขีดความสามารถในการใช้งานบนถนนทุกรูปแบบ และความคล่องตัวจากน้ำหนักที่เบาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น Tiger 900 จึงมีตำแหน่งยืนคร่อมรถที่แคบลง และยังได้รับการออกแบบให้หน้ารถมีน้ำหนักเบาลง ลดสเกลตัวถังลง พร้อมใช้ถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสไตล์น่าเกรงขามยิ่งขึ้น กับเฟรมแบบใหม่ที่น้ำหนักเบาลง
รถจักรยานยนต์ Tiger 900 GT และ Rally จะมีตัวเลือกสีพรีเมียมสามแบบ ได้แก่ Pure White, Sapphire Black และ Korosi Red สำหรับรุ่น GT และ GT Pro และตัวเลือกสี Pure White, Sapphire Black และ Matt Khaki สำหรับรุ่น Rally และ Rally Pro Tiger 900 รุ่นพื้นฐานจะเป็นสี Pure White
7. อุปกรณ์เสริมแท้
แต่งรถจักรยานยนต์ adventure ของคุณ ด้วยสองชุดแต่งสร้างแรงบันดาลใจ และอุปกรณ์เสริมแท้ของ Triumph กว่า 65 รายการ เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย ความสะดวกสบาย สมรรถนะ และสไตล์ให้กับ Tiger 900 ของคุณ และยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับขนสัมภาระและปกป้องรถอีกด้วย ชุดแต่งสร้างแรงบันดาลใจ The Trekker คือการรวบรวมตัวเลือกที่ดีที่สุดของอุปกรณ์เสริมสำหรับขนสัมภาระ และการผจญภัยแบบ touring ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มรถ Tiger 900 GT มากที่สุด ในขณะที่ชุดแต่งสร้างแรงบันดาลใจ Expedition จะเป็นการเสริมขีดความสามารถในการใช้งานบนทางวิบากของกลุ่มรถ Tiger 900 Rally
8. ตัวเลือก LOW RIDE HEIGHT ที่ใช้งานง่าย
Tiger 900 รุ่น GT จะมีอีกหนึ่งเวอร์ชันที่ใช้งานง่ายยิ่งกว่า ได้แก่ Low Ride Height โดยมีคุณลักษณะด้านดีไซน์ต่างๆ ที่สอดคล้องกัน อาทิ โช้คและ RSU เฉพาะรุ่น รวมถึงระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับจูนเป็นพิเศษ ซึ่งช่วยให้รถรุ่นนี้มีความสูงเบาะนั่งต่ำกว่า Tiger 900 มาตรฐานอีก 50 มม. เช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์ Tiger 900 ทุกคัน รถรุ่นนี้จะรองรับการปรับความสูงเบาะนั่ง 20 มม. ในตัว ซึ่งหมายความว่า Tiger 900 GT LRH จะมีช่วงความสูงเบาะนั่งอยู่ที่ 760 – 780 มม. เมื่อเทียบกับความสูงมาตรฐาน 810 – 830 มม.
10. คุณลักษณะเพิ่มเติมของตัวท็อป
หากคุณกำลังพิจารณาเลือกใช้ Tiger 900 ตัวท็อป เราขอแนะนำคุณลักษณะเพิ่มเติมของรุ่น ‘Pro’ ที่คุณจะต้องชื่นชอบ
คุณลักษณะของ Tiger 900 GT Pro – ชุดกันสะเทือนหลังแบบใหม่ที่ควบคุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้ผู้ขี่สามารถตั้งค่าพรีโหลดการะคืนตัวของระบบกันสะเทือนหลังผ่านแผงหน้าปัด TFT ได้ โดยมีสี่การตั้งค่าพรีโหลด (‘Rider’, ‘Rider & Luggage’, ‘Rider & Pillion’ และ ‘Rider & Luggage & Pillion’) ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับเก้าระดับการยุบตัว เพื่อหาส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดสำหรับการผจญภัยของคุณ เฉพาะตัวท็อปรุ่น Pro จะมีระบบเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ ที่ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มและลดเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์
นอกจากนี้ยังเพิ่มโหมดการขี่โหมดที่ห้า ดังนั้น นอกจากจะมีโหมด Road, Rain, Off-Road และ Sport เหมือนกับ GT รุ่นมาตรฐานแล้ว GT Pro ยังมีโหมด Rider-Programmable ซึ่งมีประโยชน์อย่างมาก โดยผู้ขี่จะสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าของรถให้ตรงกับความต้องการใช้งานได้มากที่สุด ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จะคอยแจ้งเตือนผู้ขี่ เมื่อแรงดันลมยางลดต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม ระบบนี้จะได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในตัวท็อป Tiger 900 GT Pro นอกจากนี้ ยังมีระบบเชื่อมต่อ My Triumph ในตัวเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมโทรศัพท์, GoPro และใช้งาน GPS ได้ ในขณะที่ยังมีเบาะนั่งผู้ขี่และผู้โดยสารแบบปรับอุณหภูมิไฟฟ้า เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมสวิตช์แบบมีไฟพื้นหลังที่ช่วยเสริมสไตล์ให้ดูดียิ่งขึ้น และอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
Tiger 900 Rally Pro Features – ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ที่มีเฉพาะในตัวท็อปรุ่น Pro เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าการเพิ่มและลดเกียร์โดยไม่ต้องใช้คลัตช์จะเป็นไปอย่างนุ่มนวลและสะดวกสบาย
ในขณะที่รุ่น Rally นั้นมีโหมดการขี่สี่โหมด (Road, Rain, Off-Road และ Sport) รุ่น Rally Pro จะมีโหมดการขี่เพิ่มเติมอีกสองโหมด – Rider-Programmable และ Off-Road Pro – ซึ่งจะช่วยให้คุณมีการตั้งค่าการขับขี่ที่แม่นยำ เพื่อรองรับการขับขี่บนทางวิบากที่เลวร้ายยิ่งขึ้น พร้อมความสามารถในการใช้งานแบบ adventure ขั้นสูง ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) จะคอยแจ้งเตือนผู้ขี่ เมื่อแรงดันลมยางลดต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม ระบบนี้จะได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในตัวท็อป Tiger 900 GT Rally Pro เพื่อให้ Tiger 900 ตัวท็อปของคุณสมบูรณ์แบบ Rally Pro ยังมีระบบเชื่อมต่อ My Triumph ในตัว, เบาะนั่งผู้ขี่และผู้โดยสารแบบปรับอุณหภูมิไฟฟ้า และสวิตช์แบบมีไฟพื้นหลังซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุด เพื่อเพิ่มความพรีเมียมให้กับรถรุ่นนี้
TIGER 900 RANGE
TIGER 900 GT PRO (MY23)
ราคาเริ่มต้น ฿639,000
TIGER 900 RALLY (MY23)
ราคาเริ่มต้น ฿579,000
TIGER 900 RALLY PRO (MY23)
ราคาเริ่มต้น ฿659,000