TIGER 900
เครื่องยนต์และขีดความสามารถของ
ชมรายละเอียดเครื่องยนต์และขีดความสามารถของมาตรฐานใหม่ในหมวดหมู่รถจักรยานยนต์ adventure
ในเดือนมกราคมปี 2018 รถจักรยานยนต์ Triumph Tiger รุ่นโปรโตไทป์ ได้ลงแข่งในงานแรลลีสุดโหด PanAfrica Rally หลังจากบุกตะลุยผ่านส่วนหนึ่งของสภาพภูมิประเทศที่เลวร้ายที่สุดในโลก รถรุ่นนี้ก็ได้รับเหรียญเงินในรุ่นแม็กซี-เทรลของการแข่งขันข้ามทะเลทราย ตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรก
ความสำเร็จอันโดดเด่นนี้ คืออีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในโปรแกรมการพัฒนา Tiger 900 รุ่นใหม่ พร้อมเครื่องยนต์โฉมใหม่ และยังเป็นการสาธิตให้เห็นว่ากลุ่มรถใหม่สุดเร้าใจนี้ ใช้ประโยชน์อย่างไรจากสมรรถนะของเครื่องยนต์สามสูบ 900 cc เทคโนโลยีนวัตกรรม เพื่อสร้างความสะดวกสบาย เสริมการควบคุม และความน่าไว้วางใจ รวมถึงความอเนกประสงค์และความคล่องตัวที่จำเป็นสำหรับคุณ ในการออกผจญภัยทุกครั้งอย่างมั่นใจ
เครื่องยนต์ TIGER 900 cc
กำลังของเครื่องยนต์สามสูบ
ด้วยความจุกระบอกสูบ 900 cc ที่ใหญ่กว่าเดิม และนวัตกรรมด้านโครงสร้างแบบใหม่ เครื่องยนต์ Tiger 900 รุ่นใหม่ จึงมีกำลังสูงขึ้นตลอดทุกช่วงรอบ โดยมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 95 PS (70 kW) @ 8,750 rpm และสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าในช่วงรอบกลางถึง 9% แรงบิดก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีค่าสูงสุดอยู่ที่ 87 Nm @ 7,250 rpm มากกว่ารุ่นก่อนหน้ามากถึง 10%
เครื่องยนต์สามสูบ 900 cc รุ่นใหม่ ได้รับการออกแบบโดยใช้ไลเนอร์ ‘Siamese’ แบบใหม่ ซึ่งสามารถรองรับขนาดกระบอกสูบและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นได้ เพลาข้อเหวี่ยงแบบใหม่ที่ช่วยให้เครื่องยนต์มีลักษณะและเสียงที่ดียิ่งขึ้น บาลานเซอร์แบบใหม่สำหรับใช้จัดการลำดับการจุดระเบิดใหม่ และเพลาข้อเหวี่ยง ลูกสูบ และก้านสูบแบบใหม่
ลำดับการจุดระเบิดใหม่
ลำดับการจุดระเบิดเครื่องยนต์แบบใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้นส่งผลให้ทั้งคุณลักษณะและสัมผัสดียิ่งกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้น
ในขณะที่ Tiger 800 รุ่นก่อนหน้า ใช้ลำดับการจุดระเบิดสม่ำเสมอที่ 240o โดย Tiger 900 รุ่นใหม่ จะใช้ลำดับการจุดระเบิด 1,3,2 ซึ่งคิดค้นขึ้นใหม่ ซึ่งจะเริ่มต้นที่ 180o จาก 1 ถึง 3, 270 o จาก 3 ถึง 2 ตามด้วย 270 o จาก 2 ถึง 1 อีกครั้ง
ลำดับการจุดระเบิดแบบใหม่นี้ ช่วยให้มีกำลังสูงในรอบต่ำ พร้อมเสียงคำรามที่แหบทุ้ม ในขณะที่ยังคงความนุ่มนวลตามแบบฉบับเครื่องยนต์สามสูบ พร้อมแรงเร่งในรอบกลาง รวมถึงสมรรถนะสูงสุดเอาไว้อย่างครบถ้วน
ผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงท่อไอดีขณะเครื่องยนต์ทำงานที่ดีขึ้น การตอบสนองจากเครื่องยนต์ถึงผู้ขี่ที่มากยิ่งขึ้น เสียงเครื่องยนต์ที่โดดเด่นขึ้น และสัมผัสคันเร่งที่ควบคุมได้ง่ายขึ้นและดียิ่งขึ้น ออกตัวแรงขึ้น ที่รอบเครื่องต่ำลง
ประโยชน์ที่ได้จากคุณลักษณะสนับสนุนการขับขี่ขั้นสูง
Tiger 900 ทุกรุ่น จะมีระบบคลัตช์ผ่อนแรงซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเพื่อช่วยลดแรงที่ใช้ในการบีบคลัตช์ของผู้ขี่ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขี่ Tiger 900 เพื่อให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องง่ายขึ้น รวมถึงในระหว่างการหยุดรถ/ออกตัวขณะเดินทางประจำวันภายในเมืองอีกด้วย ชุดคลัตช์ที่มีขนาดเล็กลงยังช่วยสนับสนุนดีไซน์เครื่องยนต์ที่แคบลงอีกด้วย
ชุดหม้อน้ำคู่ใหม่ ช่วยเพิ่มสมรรถนะการระบายความร้อนสูงขึ้น โดยมีการจัดการการไหลเวียนอากาศที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยลดระดับความร้อนรอบตัวที่ผู้ขี่สัมผัสได้ นอกจากนี้โครงสร้างที่ผ่านการปรับปรุงยังช่วยลดปริมาณสารหล่อเย็นลงอีกด้วย และยังมีกรองอากาศแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งสามารถเข้าถึงไส้กรองได้ง่ายขึ้น พร้อมตำแหน่งเครื่องยนต์ที่ต่ำลง ส่งผลให้ศูนย์ถ่วงของรถต่ำลง ช่วยให้การบังคับรถและสมดุลขณะใช้ความเร็วต่ำดียิ่งขึ้น ดีไซน์ใหม่เหล่านี้ มีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ของรถกลุ่มนี้ได้อย่างแท้จริง
ขีดความสามารถของ TIGER 900
โครงรถรุ่นปรับจูนและปรับปรุงใหม่
มีน้ำหนักโดยรวมเบากว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุดถึง 5 กก. Tiger 900 รุ่นใหม่ คืออีกขั้นของการเปลี่ยนแปลงด้านการบังคับรถและความคล่องตัว อันเนื่องมาจากโมดูลาเฟรมรุ่นใหม่ที่น้ำหนักเบา (ประกอบขึ้นจากเฟรมซี่ขวางเหล็กที่น้ำหนักเบาลง พร้อมซับเฟรมท้ายอะลูมิเนียมยึดด้วยสกรู และส่วนยึดที่พักเท้าแบบยึดด้วยสกรู) เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่น้ำหนักเบาลง พร้อมระบบกันสะเทือนและเบรกสเปคสูง ศูนย์ถ่วงของรถจักรยานยนต์แต่ละคันต่างได้รับการแก้ไข โดยเลื่อนไปด้านหน้า 40 มม. และลดต่ำลง 20 มม. เพื่อการกระจายน้ำหนักระหว่างล้อหน้าและหลังที่ดีขึ้น ส่งผลให้สมดุลขณะใช้ความเร็วต่ำดียิ่งขึ้นในทุกสถานการณ์การขับขี่ โดยที่ยังคงระยะห่างจากพื้นดินของ Tigers เอาไว้ได้ในทุกรุ่น
ระบบกันสะเทือนของกลุ่มรถ Tiger 900 GT
กลุ่มรถ GT จะใช้ระบบกันสะเทือนขั้นสูง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้พร้อมรับมือกับบรรดาความท้าทายที่คุณอาจต้องเผชิญ ทั้งการเดินทางไกล และการผจญภัยในเมือง Tiger 900 GT ทั้งสองรุ่นจะใช้ระบบกันสะเทือน Marzocchi คุณภาพสูงรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นโช้คหัวกลับขนาด 45 มม. ที่สามารถปรับตั้งการยุบตัวและการคืนตัวแบบแมนนวลได้ และมีระยะยุบตัวล้อหน้า 180 มม. ที่ส่วนท้ายของ GT จะสามารถปรับตั้งพรีโหลดและการคืนตัวแบบแมนนวลได้ พร้อมระยะยุบตัวล้อ 170 มม. และสำหรับตัวท็อป GT Pro จะใช้ RSU แก๊ส ที่สามารถปรับตั้งพรีโหลดและการคืนตัวผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ พร้อมระยะยุบตัวล้อหลัง 170 มม. GT เวอร์ชัน Low Ride Height จะมีระยะยุบตัวที่ล้อหลัง 151 มม
ระบบกันสะเทือนของกลุ่มรถ Tiger 900 Rally
กลุ่มรถ Rally จะใช้ชุดกันสะเทือนเฉพาะรุ่น ที่พร้อมสำหรับการขี่บนทางวิบาก ซึ่งได้แก่โช้คหน้าสเปคสูงระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ของ Showa พร้อมระยะยุบตัวล้อ 240 มม. รองรับการปรับตั้งพรีโหลด การยุบตัว และการคืนตัวอย่างเต็มที่ ที่ล้อหลังจะใช้ RSU แก๊สระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ของ Showa ซึ่งมีระยะยุบตัวล้อหลัง 230 มม. และรองรับการปรับตั้งพรีโหลด การยุบตัว และการคืนตัวอย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้ถูกพัฒนาขึ้นร่วมกันเพื่อสร้างขีดความสามารถระดับสุดยอดในเซกเมนต์รถจักรยานยนต์ adventure น้ำหนักปานกลาง
เบรกระดับชั้นนำ Brembo Stylema®
รถทุกรุ่นในกลุ่ม Tiger 900 จะใช้เบรกตัวท็อปสำหรับการใช้งานบนท้องถนนของ Brembo คาลิปเปอร์สมรรถนะสูงของ Brembo Stylema® เหล่านี้มีน้ำหนักเบา กะทัดรัด และผลิตขึ้นอย่างประณีต โดยกินพื้นที่รอบๆ ลูกสูบและผ้าเบรกน้อยลง ช่วยลดพื้นที่ภายในของน้ำมันเบรก ส่งผลให้สามารถตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การไหลเวียนอากาศรอบๆ ผ้าเบรกที่เพิ่มขึ้น ยังช่วยให้คาลิปเปอร์เย็นเร็วขึ้น ช่วยให้สมรรถนะและสัมผัสเบรกดียิ่งขึ้น
ความสามารถเพิ่มเติม
กลุ่มรถ Tiger 900 จะได้รับการติดตั้งบังลมหน้าปรับได้แบบใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถป้องกันลมได้อย่างดีเยี่ยมในทุกสถานการณ์การขับขี่ พร้อมความสามารถในการปรับตำแหน่งได้ง่ายๆ โดยใช้มือเดียว เพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง aero diffuser ของกระจกให้กันลมออกจากผู้ขี่และผู้โดยสาร ในขณะที่ยังคงรักษาความคล่องตัวของรถจักรยานยนต์เอาไว้ นอกจากนี้ ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 20 ลิตรที่ใหญ่ขึ้น ยังช่วยให้สามารถเดินทางได้ไกลขึ้นอีกด้วย
ปรับความสูงเบาะนั่งได้
Tiger 900 ทุกรุ่น จะมีกลไกเบาะนั่งในตัวที่ปรับได้ 2 ตำแหน่ง ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขี่สามารถเปลี่ยนแปลงความสูงเบาะนั่งได้ 20 มม. ตามความต้องการใช้งาน ความสูงเบาะนั่งของ Tiger 900, GT และ GT Pro จะอยู่ที่ 810 – 830 มม. และความสูงเบาะนั่งของ Rally และ Rally Pro จะอยู่ที่ 850 – 870 มม.
รุ่น Low Ride Height ที่ใช้งานง่าย
เวอร์ชันที่ความสูงลดลงของ Tiger 900 GT ตัวสเปคระดับกลาง ซึ่งมีเบาะนั่งต่ำกว่ามาตรฐาน 50 มม. ความสูงที่ลดลงนี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงส่วนต่างๆ อย่างสอดคล้องกัน ทั้งโช้คและ RSU เฉพาะรุ่น รวมถึงชุดกันสะเทือนที่ปรับจูนพิเศษ เวอร์ชันเบาะนั่งต่ำลงนี้ จะเหมือนกันกับ Tiger 900 ทุกรุ่น โดยจะสามารถปรับความสูงเบาะได้อีก 20 มม. ซึ่งหมายความว่าความสูงเบาะนั่งของ Tiger 900 GT LRH (low ride height) จะอยู่ที่ 760 – 780 มม.
