Skip to main content

รถจักรยานยนต์ของเรา

ตระกูล BONNEVILLE

Triumph Motorcycles Classic bikes in warehouse

Bonneville T120

ที่สุดของโมเดิร์นคลาสสิก

อาจกล่าวได้ว่าเป็นชื่อที่โด่งดังที่สุดในวงการรถจักรยานยนต์ ผลงานการออกแบบทิ้งทวนที่ Edward Turner ทำให้กับ Triumph ในปี 1958 กลายเป็นผลงานชิ้นเอกของเขา ซึ่งได้แก่ Bonneville T120 ด้วยสมรรถนะอันน่าทึ่งและสัดส่วนที่ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ รถรุ่นนี้จึงได้รับการยอมรับจากหลายๆ คนว่าเป็นนิยามของรถคลาสสิกสัญชาติอังกฤษ

ถูกตั้งชื่อตามการทำลายสถิติความเร็วบนบก 214mph ของ Triumph ในปี 1956 และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของยุคสมัยแห่งวัยรุ่นชาว cafe racer รวมทั้งสร้างชื่อเสียงในระดับตำนานที่มีผลงานจริงเป็นหลักฐานยืนยัน รถรุ่นนี้พา John Hartle เข้าเส้นชัยในการแข่งขัน Isle of Man TT และยังทำลายสถิติในปี 1969 หลังจากที่ Malcolm Uphill เร่งเครื่อง Bonnie ของเขาจนทำความเร็วรอบเฉลี่ยเกิน 100mph ได้สำเร็จ

 

 

Triumph Bonneville T120 Competition Green and Fusion White city shot

ภายหลังการเปิดตัวในปี 2006 Bonneville T100 ก็กลายเป็นใบเบิกทางสู่ความเป็นต้นแบบในนาม T120 ซึ่งกลับมาเป็นสมาชิกกลุ่มรถของ Triumph อีกครั้งในปี 2016 พร้อมเครื่องยนต์สูบคู่สัญชาติอังกฤษกำลังสูง 1200cc แบบใหม่ Bonneville T120 รุ่นใหม่นั้นทั้งสวยงามขึ้น มีกำลังมากขึ้น และสมรถนะที่สูงยิ่งขึ้น  ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันเป็นต้นแบบจากปี 1958 ความพิถีพิถันและเอาใจใส่ในรายละเอียดอย่างเต็มที ตกแต่งด้วยเหล็กปัดเงาและชุบโครเมียม ทำให้ T120 โดดเด่นสะดุดตากว่าใคร

จากการยึดถือแนวทางและสไตล์จากรุ่นดั้งเดิมปี 58 เพื่อนำมาจับคู่กับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความสามารถด้านการขี่สมัยใหม่ ส่งผล T120 สามารถนำเอาชื่อที่เป็นต้นแบบกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมีสไตล์ Bonnies คือหนึ่งในสิ่งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของเรา และยังคงเป็นสิ่งที่เป็นตัวแทนของความเป็น Triumph ที่มีทั้งความประณีตในการผลิต คุณภาพ สมรรถนะ รายละเอียด และคุณลักษณะที่เป็นของจริง

Vintage Triumph Bonneville T120

BONNEVILLE T100

ความเป็นแบบฉบับที่เหมาะสำหรับทุกคน

รถคลาสสิกสัญชาติอังกฤษ T100 นั้นเปิดตัวครั้งแรกในปี 2002 โดยนำเอาชื่อ Bonneville ที่เป็นต้นแบบ กลับมาสู่ Triumph อีกครั้งในรูปแบบคัสตอมสมัยใหม่ที่ทั้งมีสไตล์และควบคุมง่าย จนได้รับการยอมรับว่าเป็นรถที่น่าประทับใจ ภายใต้ความทุ่มเทของเหล่าเจ้าของ T100 ผู้เต็มเปี่ยมด้วยความภูมิใจ ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการถือกำเนิดของรถรุ่นนี้ในยุคโมเดิร์นคัสตอม

T100 เป็นรถตระกูล Bonneville รุ่นแรกที่ใช้ระบบหัวฉีดและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และถือเป็นการนำเอา Bonnie เครื่องคาร์บูเรเตอร์แบบคลาสสิกกลับมาสู่ยุคสมัยใหม่อีกครั้ง ได้รับการพลิกโฉมอีกครั้งในปี 2017 โดยเพิ่มเหล่าเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเปลี่ยนโครงรถเป็นแบบใหม่ เพื่อการควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ Bonneville T100 และ T100 Black รุ่น 900cc จึงเป็น Bonneville ที่ขี่ง่ายและทันสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

 

Image of Triumph Bonneville T100 in orange and white colour variant, parked in urban setting.

เริ่มต้นจากเครื่องยนต์ 790cc ในปี 2002 ซึ่งได้รับการอัพเกรดครั้งแรกเป็นเครื่องยนต์ขนาด 865cc พร้อมข้อเหวี่ยงแบบ 360 องศา จากนั้นจึงกลายเป็นเครื่องยนต์สูบคู่ 900cc แบบล่าสุด พร้อมเสียงเครื่องยนต์สัญชาติอังกฤษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ออกแบบมาเพื่อให้มีแรงบิดสูงในรอบต่ำจนถึงรอบกลาง เครื่องยนต์นี้มีลักษณะที่เหมาะสำหรับการขี่ทั้งในเมือง ถนนที่คดเคี้ยว และที่อื่นๆ

Bonneville T100 Riding through town

ภายหลังการเปิดตัว Bonneville T120 Black และ T100 Black ที่ดุดันขึ้นในปี 2016 จิตวิญญาณความเป็นตัวของตัวเองและความมีสไตล์ของ Bonnie แบบดั้งเดิมก็กลับมาอีกครั้ง

Scrambler

เส้นสายที่ชัดเจน การตกแต่งแบบร่วมสมัย และถังน้ำมันเชื้อเพลิงแบบโฉบเฉี่ยว

 

 สำหรับหลายคน คำว่า ‘Scrambler’ ทำให้นึกถึงภาพอันเป็นตำนานของ Steve McQueen บนรถ Bonneville 650 ซีซี จากสายเลือดออฟโรดนี้และโดยการอิง TR6 Trophy จากยุค 60 Triumph ได้นำเสนอ Scrambler สมัยใหม่ผลิตจากโรงงานในปี 2006 

เนื่องจากเป็นรูปแบบหนึ่งที่ลูกค้าถามหามากที่สุด Triumph Scrambler ได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับทุกคน โด่งดังจากรถ Amazon Adventure ของ David Beckham และนักแต่งรถอื่น ๆ ทั่วโลก รุ่น Scrambler ที่ทันสมัยเป็นจักรยานยนต์ยอดนิยม 

 

Triumph Street Scrambler on beach action shot

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังมุ่งไปที่ลานเกลือ Bonneville Salt Flats [Link to Landspeed] และสนาม Isle of Man TT (ซึ่งเป็นสนามดินในสมัยนั้น)[link to Isle of Man TT] ก่อนที่จะมีรถจักรยานยนต์ออฟโรด Triumph เป็นผู้บุกเบิกเคล็ดลับที่ไม่ใช่เรื่องลับอีกต่อไป คือ ให้น้ำหนักเบาแต่ให้กำลังมาก

Image Source: Steve McQueen Estate
Steve McQueen pushing an iconic Triumph Motorcycle

Scrambler รุ่นปัจจุบันเปิดตัวในปี 2006 และประสบความสำเร็จในโลกภาพยนตร์และโทรทัศน์ เช่นเดียวกับด้านยอดขาย โดยรวมถึง Jurassic World ในปี 2015 และตอนหนึ่งของ Dr Who ในปี 2013

THRUXTON

CAFE RACER แบบโมเดิร์นคลาสสิก

เปิดตัวใหม่ในปี 2004 และอีกครั้งในปี 2016 รุ่น Thruxton เป็นรถ Cafe Racer โมเดิร์นคลาสสิกขั้นสุดยอด 

Thruxton คันแรกเป็นรุ่น T120 ที่ดัดแปลงสำหรับการแข่งขันที่เปิดตัวในปี 1964 ที่มีเพียง 49 คัน แทนที่จะเปิดขายให้ลูกค้าทั่วไป ผู้แทนจำหน่ายมักจะเสนอขายให้กับนักแข่งท้องถิ่น นับจากการแข่งขัน Isle of Man จนถึง Thruxton 500 รถแข่งเหล่านี้ทำให้คนที่เร็วที่สุดเร็วยิ่งกว่าเดิม 

 

 

Static Triumph Thruxton R on paddock stand in garage setting

 

มีคนบอกว่าตราบเท่าที่มีรถจักรยานยนต์ ก็มีคนที่ต้องการนำมาแข่งกัน Bonneville ที่เป็นรถจักรยานยนต์ที่เร็วที่สุดในยุคนั้น เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับการแข่งขัน Isle of Man TT และ Thruxton 500  การแข่งขันที่สนาม Thruxton เป็นหลัก ทำให้การแข่งขัน Endurance Thruxton 500 ไมล์ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ผลิตสัญชาติอังกฤษที่จะทดสอบรถของตัวเอง Triumph ประสบความสำเร็จอย่างมากในการแข่งขัน รวมถึงการชนะสามอันดับแรกในปี 1969

 

 

Triumph เปิดตัวรุ่น Thruxton Bonneville ที่ผลิตแบบจำกัดจำนวนในทศวรรษ 1960 และให้กำเนิดวัฒนธรรมรถ Cafe Racer 

Image Source: Mortons Arhive

Retro Triumph riding shot

ปัจจุบันชื่อนี้ยังคงอยู่กับรุ่น Thruxton ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง 1200 ซีซี โช๊คหัวใหญ่ Showa ระบบกันสะเทือนหลัง Öhlins และจานเบรก Brembo รุ่น Thruxton มีแรงม้าดิบ ๆ และการบังคับเลี้ยวที่พร้อมสำหรับการแข่ง Cafe Run ทุกรูปแบบ

Triumph Thruxon Riding Shot

BOBBER

รถคัสตอมต้นแบบ

มีรถจักรยานยนต์ไม่กี่รุ่นที่เปิดตัวด้วยความตื่นเต้นคลั่งไคล้แบบรุ่น Bobber มันเป็นรถจักรยานยนต์ที่ทุกคนต้องการและกลายเป็นรถ Triumph ที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อเปิดตัวในปี 2016 

อย่างไรก็ตาม ต้นกำเนิดของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้มีประวัติสืบกลับไปนานถึง 60 ปี สไตล์เฉพาะตัวของมันมาจากธรรมเนียมการตัดท้ายแบบ Bobbing ในสหรัฐอเมริกา หลังสงครามโลกซึ่งช่วยให้ Bobber กลายมาเป็นตำนานสมัยใหม่

 

 

Red and White Triumph Bonneville Bobber static shot

หลายปีก่อนที่ Triumph เปิดตัวรูปแบบ Bobber ผู้ขับขี่ก็ตัดท้ายรถ Triumph ของตัวเองแล้ว ทหารอเมริกันที่กลับจากสงครามในทศวรรษ 1940 ซึ่งส่วนใหญ่ได้เรียนรู้ทักษะช่างจากการซ่อมรถทหาร ได้ใช้ความรู้มาแต่งรถจักรยานยนต์ของตัวเองที่บ้านเกิด 

Image Source: Unknown

Retro image of lady on a old Triumph Motorcycle

ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของศตวรรษที่ 20 รถ Triumph กลายเป็นรถหลักที่นักแต่งรถที่ต้องการถอดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์เพื่อทำรถ Bobber แม้ในทศวรรษ 1970 ที่ทุกคนคลั่งรถช็อปเปอร์ รถ Bobber ที่เน้นสมรรถนะมากกว่าก็ยังวิ่งอยู่เต็มถนน 

Triumph Bonneville Bobber infront of black shutter

แฮนด์ที่อยู่ต่ำ ๆ เบาะที่นั่งเดี่ยว กลายมาเป็นของนิยมในช่วงปลายทศวรรษ 2000 โดดข้ามเวลามาที่ปัจจุบัน ก็รับประกันได้เลยว่าต้องมีรถ Bobber ในงานแสดงรถจักรยานยนต์ทุกงาน Triumph เป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่รายแรกที่นำเสนอรถ Bobber ใหม่จากโรงงาน ทำให้ลูกค้าได้รถ Bobber ของแท้ ที่มาพร้อมตัวเลือกการแต่งมากมายให้กับกลุ่มคนที่ไม่ต้องการรื้อรถจักรยานยนต์เดิม ๆ ของตัวเอง 

SPEEDMASTER

คัสตอมอังกฤษ ของแท้

อังกฤษแท้พร้อมอารมณ์แบบอเมริกัน รุ่น Speedmaster เป็นภาพสะท้อนประเพณีรถ Cruiser ที่ยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ และนักแต่งรถที่มุ่งมั่นกับการสร้าง Triumph ที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 

Speedmaster ปี 2018 ถูกต้อนรับเข้าสู่ตระกูล Bonneville และมีพื้นฐานจากรุ่น Bobber แต่มีสไตล์การขับขี่แบบผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีที่ให้นั่งสองคน 

 

 

Triumph Bonneville Speedmaster near river USA

Speedmaster เครื่องยนต์สูบแฝด 790 ซีซี รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2002 การออกแบบรุ่นนี้มีมรดกตกทอดมาจากรถ Cruiser อย่าง Bonneville America และ Triumph ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งและปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยเปิดตัวเครื่องยนต์ 865 ซีซี ในปี 2005 และระบบการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2008

ในปัจจุบัน การมีพื้นฐานร่วมกับ Bobber ทำให้ Speedmaster สมัยใหม่พร้อมสำหรับการขับขี่ระยะไกลขณะที่ยังบังคับเลี้ยวได้เฉียบคมและมีสมรรถนะสูง Speedmaster เฉลิมฉลองการผสมผสานวัฒนธรรมรถจักรยานยนต์ของอังกฤษเข้ากับของอเมริกันซึ่งผงาดขึ้นมาในทศวรรษ 1950 คือ วิศวกรรมแบบอังกฤษแต่งแต้มด้วยสไตล์ยานยนต์อเมริกันยุค 50 

Triumph Speedmaster in the foreground showing tank and handlebars, sunset and couple in the background

MODERN CLASSICS

รถจักรยานยนต์ที่ต้องกล่าวคำชม

ในปัจจุบัน รุ่นโมเดิร์นคลาสสิกมีความหลากหลายมากกว่าก่อน อย่างไรก็ตาม แต่ละรุ่นมีคุณภาพเดียวกัน คือ สมรรถนะ การผลิต การออกแบบ และฝีมือการประกอบ

รุ่นย่อยนี้เปิดตัวในปี 2001 พร้อมกับ Bonneville ใหม่ Triumph ได้นำสไตล์ของ Bonneville ดั้งเดิมและนำมาปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีกับการวิศวกรรมเพื่อสร้างรถจักรยานยนต์สมัยใหม่ที่งดงามและมีบุคลิกของแท้ 

 

Triumph Modern Classic motorcycle group shot including the Bonneville Bobber and Thruxton

ปัจจุบัน Bonneville ที่ทรงพลังและเป็นที่รู้จักพอ ๆ กับชื่อ Triumph มีรุ่นย่อยครบทุกรูปแบบ สองรุ่นที่อยู่ในรูปแบบ Bonnie แบบคลาสสิกคือรุ่น T100 และ T120

Two  Triumph Bonnevilles in urban setting

T100 ได้แรงบันดาลใจโดยตรงจาก Bonneville ต้นฉบับ ปี 1959 Bonneville โดยใช้เครื่องยนต์ 900 ซีซี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ -โดยในรุ่น T120 มีพื้นฐานคลาสสิกแบบเดียวกัน แต่มีเครื่องยนต์ 1200 ซีซี ที่ทรงพลัง ด้วยสไตล์ที่ใกล้เคียงกับรุ่นแรก ๆ จนคนทั่วไปจะคิดว่ารถถูกผลิตออกมาจากโรงงานในช่วงต้นยุค 60

Triumph Bonneville T120 Jet black in front of garage

ในปัจจุบัน กลุ่มรุ่นโมเดิร์นคลาสสิก ประกอบด้วยรุ่น:

  • Bonneville Bobber
  • Bonneville Speedmaster
  • Bonneville T100 
  • Bonneville T120 
  • SCRAMBLER
  • Street Cup
  • Street Scrambler
  • Street Twin
  • Thruxton
     



กลุ่มรุ่นโมเดิร์นคลาสสิก

ต้นแบบสัญชาติอังกฤษที่เป็นผู้นำของโลก

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม