ในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์เพียงรายเดียวของการแข่งขัน FIM Moto2™ World Championship, Triumph Motorcycles เป็นผู้จัดเตรียมเครื่องยนต์สามสูบ 765cc ที่ปรับแต่งมาเพื่อใช้ในการแข่งขันโดยเฉพาะให้กับทุกทีม โดยเครื่องยนต์ทุกตัวนั้น ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากขุมกำลังระดับแนวหน้าของ Street Triple RS จากการพัฒนาที่ช่วยให้เครื่องยนต์ระบายอากาศได้ดีขึ้น และทำรอบเครื่องยนต์ได้สูงขึ้น ส่งผลให้กำลังสูงสุดจึงมากกว่า 140PS (สูงกว่ารถจักรยานยนต์รุ่นที่ผลิตเพื่อจำหน่ายกว่า 17%)
เพื่อเป็นเกียรติแก่ความสูสีของผลการแข่งขัน และความสามารถอันยอดเยี่ยมของนักแข่ง Moto2, Triumph กับ Dorna จึงร่วมกันเปิดตัว Triumph Triple Trophy ควบคู่ไปกับ World Championship ซึ่งผู้ชนะจะได้รับ Triumph Street Triple RS รุ่นคัสตอมพิเศษเมื่อจบฤดูกาล
Triumph และ MotoGP จะร่วมกันคัดเลือกนักแข่งสามคนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในแต่ละช่วงสุดสัปดาห์ จากนั้นก็จะให้แฟน ๆ โหวตนักแข่งคนโปรดของพวกเขาผ่าน MotoGP Instagram stories เพื่ออ้างอิงตามเครื่องยนต์ 765cc, นักแข่งคนโปรดของแฟนๆ จะได้รับ 7 คะแนน, นักแข่งที่ได้คะแนนโหวตอันดับ 2 จะได้รับ 6 คะแนน และนักแข่งที่ได้อันดับ 3 จะได้รับ 5 คะแนน
ฤดูกาล 2024 ถือเป็นฤดูกาลที่หกของ Triumph ในการเป็นซัพพลายเออร์เครื่องยนต์เพียงรายเดียวของ Moto2™
ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ขุมกำลังสามสูบ 765cc ของ Triumph ได้สร้างนิยามใหม่ให้การแข่งขันประเภทนี้ จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีการทำลายสถิติใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เรายกระดับรถจักรยานยนต์ Moto2 ที่ใช้เครื่องยนต์ Triumph ให้เข้าใกล้รถจักรยานยนต์ MotoGP มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ Moto2 เป็นซีรีส์ที่คู่ควรแก่การแย่งชิงสิทธิ์การลงแข่งในรายการใหญ่มากยิ่งขึ้น และยังช่วยผลักดันซูเปอร์สตาร์ MotoGP รุ่นใหม่ได้อีกด้วย

ฤดูกาล 2024 ถือเป็นฤดูกาลที่หกของ Triumph ในการเป็นซัพพลายเออร์เครื่องยนต์เพียงรายเดียวของ Moto2™
ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ขุมกำลังสามสูบ 765cc ของ Triumph ได้สร้างนิยามใหม่ให้การแข่งขันประเภทนี้ จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีการทำลายสถิติใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เรายกระดับรถจักรยานยนต์ Moto2 ที่ใช้เครื่องยนต์ Triumph ให้เข้าใกล้รถจักรยานยนต์ MotoGP มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ Moto2 เป็นซีรีส์ที่คู่ควรแก่การแย่งชิงสิทธิ์การลงแข่งในรายการใหญ่มากยิ่งขึ้น และยังช่วยผลักดันซูเปอร์สตาร์ MotoGP รุ่นใหม่ได้อีกด้วย

ในปี 2023, Triumph มีส่วนช่วยขับเคลื่อน Moto2 ในการทำลายสถิติความเร็วรอบการแข่งขันถึง 23 ครั้ง รวมทั้งสถิติความเร็วรอบตลอดกาล ด้วยรอบเครื่องยนต์ กำลัง และสมรรถนะที่เพิ่มมากขึ้น
จากการพัฒนาในหลายๆ ด้านที่ Triumph ดำเนินการกับเครื่องยนต์สามสูบ 765cc ส่งผลให้เครื่องยนต์เวอร์ชัน 2023 มีกำลังที่สูงสุดยิ่งขึ้นตลอดทุกช่วงรอบ แม้กระทั่งขีดจำกัดรอบเครื่องยนต์ก็สูงกว่าเดิมอยู่ที่ 14,400 rpm (เพิ่มขึ้นอีก 400rpm) เพื่อให้สมรรถนะและอัตราเร่งที่ดียิ่งขึ้น
กำลังและความเร็วเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น ย่อมต้องการส่วนประกอบเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่งขึ้น ลูกสูบจึงผลิตจากวัสดุเกรดสูงขึ้น ในขณะที่ก้านสูบ วาล์วข้อเหวี่ยง และสปริงก็ได้รับการเปลี่ยนใหม่หมด ช่องอากาศเข้าที่ไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมแคมโปรไฟล์ปรับปรุงใหม่ ช่วยให้สารผสมไหลเข้าไปในห้องชุดเผาไหม้ได้มากขึ้น ส่งผลให้แรงดันกระบอกสูบและการบีบอัดเพิ่มขึ้น
ทั้งหมดนี้ช่วยให้นักขี่สามารถใช้ประโยชน์จากไลน์และทักษะการแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น จึงมีโอกาสในการแซงมากขึ้นและทำผลงานในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น
Fermin Aldeguer สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการชนะต่อเนื่องเป็นครั้งที่สี่ในรอบชิงชนะเลิศของฤดูกาล 2023 ที่ Valencia ส่งผลให้เขากลายเป็นนักแข่งคนที่สองเพียงรายเดียวที่ชนะการแข่งขันต่อเนื่องสี่ครั้งในประวัติศาสตร์ Moto2 ในขณะที่เขาคว้าอันดับ 3 ใน Moto2 World Championship
Tony Arbolino จบฤดูกาล 2023 ด้วยอันดับ 2 นักแข่งชาวอิตาลิผู้นี้ เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่ง และพิสูจน์ตัวเองในฐานะเจ้าแห่งสายฝน แต่เขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบในช่วงแรกได้อย่างเต็มที่
กลับเป็น Pedro Acosta ที่ได้รับตำแหน่ง 2023 Moto2 Champion จากชัยชนะทั้งหมดเจ็ดครั้ง และการคว้าอันดับโพเดียมทั้งหมด 14 ครั้งตลอดทั้งฤดูกาล และเขายังทำลายสถิติการคว้าชัยชนะมากที่สุดในยุคสมัยของ Triumph โดยทำไปทั้งหมดถึง 10 ครั้งด้วยตัวเอง นักแข่งหนุ่มชาวสเปนผู้นี้ เลือกที่จะก้าวขึ้นไปท้าทาย MotoGP และเริ่มพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นถึงพรสวรรค์ของเขาแล้วใน Premier Class












