TIGER 1200: คำถาม & คำตอบของคุณ

ถาม: เมื่อเทียบกับ TIGER 1200 รุ่นก่อนหน้า ความแตกต่างหลักๆ มีอะไรบ้าง

ตอบ: Tiger 1200 รุ่นใหม่ จะเบากว่ารุ่นก่อนหน้า 25 กก. และยังมาพร้อมสไตล์แอดเวนเจอร์แบบใหม่ที่เน้นการใช้งานเฉพาะทางมากขึ้น เครื่องยนต์สามสูบด้วยเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ช่วยให้การขับขี่ที่ตอบสนองได้ไวขึ้นและเร้าใจยิ่งขึ้น และตัวรถจักรยานยนต์ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ เพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น และความสะดวกสบายสูงสุด

ถาม: สมรรถนะเป็นอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับ TIGER 900

ตอบ: Tiger 1200 มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 150PS และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 130 Nm โดยที่กำลังนั้นสูงกว่า Tiger 900 ถึงเกือบ 60% และแรงบิดเพิ่มขึ้นกว่า 50% อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเครื่องยนต์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น รวมทั้งการใช้เพลาขับและระบบกันสะเทือนแบบเซมิแอคทีฟ แต่การออกแบบเพื่อช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของ Tiger 1200 ส่งผลให้น้ำหนักต่างกันเพียง 10% เท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้ คือการขับขี่ที่ตอบสนองได้ดีขึ้น และอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ถาม: รถรุ่นนี้เหมาะสำหรับนักขี่ที่ตัวเล็กหรือไม่

ตอบ: ความสูงเบาะนั่งมาตรฐานจะมาสามารถปรับได้ 20 มม. ทุกรุ่น และเมื่อรวมกับความพยายามของทีมงานในการออกแบบให้ส่วนกลางของตัวรถนั้นใช้พื้นที่น้อยที่สุด เพื่อให้ความกว้างในการยืนคร่อมรถนั้นแคบมาก การวางเท้าลงบนพื้นอย่างมั่นคงจึงเป็นเรื่องที่แสนง่ายสำหรับคุณ และเรายังมีอุปกรณ์เสริมเบาะนั่ง ที่สามารถลดความสูงลงได้อีก 20 มม. นอกจากนี้ คันควบคุมคลัตช์และเบรกก็รองรับการปรับระยะควบคุม แป้นเบรกและเกียร์ก็สามารถปรับความสูงได้ กระจกหน้ารถแบบใหม่ที่สามารถปรับตำแหน่งได้ ยังมาพร้อมกลไกการปรับด้วยมือเดียวที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อให้การค้นหาตำแหน่งการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณเป็นเรื่องที่แสนง่ายดาย

ถาม: ทำไมรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ถึงมีน้ำหนักเบากว่า TIGER 1200 รุ่นก่อนหน้าเยอะมาก

ตอบ: นี่คือรถจักรยานยนต์โฉมใหม่ ซึ่งทีมงานดีไซน์ของเราเน้นไปที่การปรับแต่งน้ำหนักทุกชิ้นส่วนบน Tiger 1200 ให้มีการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้น้ำหนักเบาลงถึงกว่า 25 กก. ในขณะที่สเปคของรถนั้นยังคงยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดน้ำหนักอย่างมากในตัวเครื่องยนต์ใหม่ สวิงอาร์ม Tri-Link แบบใหม่ และเฟรมน้ำหนักเบารุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเอาท์ริกเกอร์อะลูมิเนียมหล่อ ซับเฟรมหลังอะลูมิเนียมแบบยึดด้วยสกรู และซับเฟรมหน้าแมกนีเซียม ล้วนมีส่วนสำคัญในการช่วยลดน้ำหนักโดยรวมลงถึง 25 กก.

ถาม: เครื่องยนต์แบบใหม่มีข้อดีอะไรบ้าง

ตอบ: เครื่องยนต์แบบ T-Plane และช่วงการจุดระเบิดแบบไม่เท่ากัน ช่วยให้สมรรถนะที่ทั้งขี่สนุกและเร้าใจตลอดทุกช่วงรอบ โดยมีกำลังและแรงบิดที่สูงขึ้น ความสามารถในการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นในช่วงรอบต่ำ และการตอบสนองที่รวดเร็ว ผสมผสานเข้ากับข้อดีทั้งหมดของเครื่องยนต์สามสูบในช่วงรอบกลางและรอบสูงสุด – เพื่อการยึดเกาะถนนที่ดีในสภาพถนนที่สมบุกสมบัน และสมรรถนะที่โดดเด่นไม่ว่าจะขี่บนถนนหรือบนทางวิบาก

ถาม: TIGER ถูกออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในลักษณะใด

ตอบ: Tiger 1200 รุ่นใหม่ เหมาะสำหรับการขับขี่ทุกรูปแบบ ด้วยการบังคับรถบนถนนที่คล่องตัว ความสามารถในการทัวริงได้อย่างเหนือชั้น และความสามารถที่แท้จริงในการวิ่งบนทางวิบาก เพลาขับจะช่วยให้คุณโฟกัสไปที่การขับขี่ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษาหรือปรับแต่งโซ่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในระหว่างการทัวริงทางไกล และระบบกันสะเทือนแบบเซมิแอคทีฟก็จะปรับแต่งค่าพรีโหลดโดยอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่ารถของคุณจะทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะควบคู่ไปกับการมอบความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าคุณจะขี่คนเดียว หรือมีผู้โดยสารนั่งซ้อนพร้อมขนสัมภาระ หรือการใช้งานในรูปแบบใดก็ตาม

ถาม: น้ำมันหนึ่งถัง สามารถเดินทางได้ไกลแค่ไหน

ตอบ: สำหรับรุ่นความจุ 20 ลิตร จะสามารถเดินทางได้สูงสุด 400 กม. และสูงสุดถึง 600 กม. สำหรับถัง 30 ลิตรในรุ่น Explorers ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ของคุณ ถังน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งสองแบบ จะได้รับการผลิตด้วยอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบเพื่อให้รถจักรยานยนต์ของเรามีน้ำหนักเบาที่สุด

ถาม: ฉันอยากฟังเสียงรถจังเลย!

ตอบ: ชมวิดีโอด้านล่างได้เลย!

ถาม: ทำไมคุณถึงเลือกใช้ล้อหลังขนาด 18 นิ้ว

ตอบ: ล้อหลัง 18 นิ้ว ให้ความสามารถในการใช้งานบนทางวิบากอย่างเหนือชั้น ในขณะที่ยังคงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมขณะวิ่งบนถนนไว้ ล้อหล่อ 19 นิ้ว/18 นิ้ว ที่ใช้ในรถตระกูล GT ได้รับการออกแบบมาเพื่อสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมบนท้องถนน ในขณะที่รุ่น Rally จะมาพร้อมล้อหน้า tubless แบบซี่ลวด 21 นิ้ว และล้อหลัง 18 นิ้ว เพื่อสร้างจุดเด่นอย่างแท้จริงขณะขับขี่บนทางวิบาก

ถาม: ระบบกันสะเทือนแบบเซมิแอคทีฟนี้เหมือนกับที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้าหรือไม่

ตอบ: ไม่เหมือน นี่คือระบบเซมิแอคทีฟใหม่ล่าสุดจาก Showa ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะในหลากหลายสถานการณ์การขับขี่ รุ่น GT จะมีระยะยุบตัว 200 มม. และได้รับการตั้งค่าเพื่อมอบความสะดวกสบายพร้อมความสามารถในการขับขี่บนท้องถนนได้อย่างดีเยี่ยม รุ่น Rally จะมีระยะยุบตัวเพิ่มขึ้นอีก 20 มม. เป็น 220 มม. พร้อมการตั้งค่าที่เน้นการใช้งานบนทางวิบากมากยิ่งขึ้น เป้าหมายของการใช้ระบบเซมิแอคทีฟ คือการมอบสัมผัสในการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ พร้อมการยึดเกาะ การควบคุมรถ และการซับแรงกระแทกที่ดีที่สุด ระบบจะรับข้อมูลแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่องจากหลากหลายเซนเซอร์ในรถจักรยานยนต์ และใช้อัลกอริธึมภายในยูนิตควบคุมระบบกันสะเทือน ในการเลือกการตั้งค่าระบบกันสะเทือนที่ดีที่สุดสำหรับสภาวะการขับขี่ในปัจจุบัน และการกำหนดค่าที่ผู้ขับขี่เลือกไว้ โดยวาล์วโซลินอยด์ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะทำการปรับแต่งการตั้งค่าการยุบตัวได้ภายในไม่กี่มิลลิวินาที

ถาม: ระบบจัดการลมร้อนได้รับการปรับแต่งอย่างไรบ้าง

ตอบ: รถรุ่นใหม่จะใช้หม้อน้ำคู่แบบติดตั้งด้านข้าง พร้อมการเดินท่อแบบใหม่ที่ฝังอยู่ในตัวถัง ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้สมรรถนะการระบายความร้อนสูงขึ้น และระบายลมร้อนไปยังตำแหน่งที่ไม่สัมผัสโดนผู้ขับขี่ ตำแหน่งหม้อน้ำใหม่ ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ให้ระยะยุบตัวยาวขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว ในรุ่น Rally ได้อีกด้วย

ถาม: จุดเด่นของสวิงอาร์ม TRI-LINK แบบใหม่มีอะไรบ้าง

ตอบ: สวิงอาร์ม Tri-Link มีน้ำหนักเบากว่าดีไซน์แขนเดี่ยวแบบเก่าถึงกว่า 1.5 กก. น้ำหนักที่ลดลง ช่วยให้ระบบกันสะเทือนสามารถควบคุมการขยับล้อได้สะดวกขึ้น จึงส่งผลให้รถจักรยานยนต์สามารถมอบความสะดวกสบาย การควบคุม และการบังคับรถที่คล่องตัวได้มากยิ่งขึ้น

ถาม: ระบบเรดาร์จุดอับสายตาทำงานอย่างไร

ตอบ: ระบบเรดาร์จุดอับสายตา จะถูกติดตั้งไว้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Explorer ทั้งสองรุ่น และจะใช้เรดาร์ยูนิตที่ติดตั้งไว้บริเวณท้ายรถ ในการทำงานของสองคุณลักษณะสนับสนุนผู้ขับขี่แบบใหม่ ‘ระบบเตือนจุดอับสายตา’ จะเปิดไฟสัญญาณใต้กระจกมองหลัง เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามียานพาหนะคันอื่นอยู่ด้านหลังในจุดอับสายตา และ ‘ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน’ จะแสดงสัญญาณเตือนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยการกะพริบไฟสัญญาณ ในจังหวะที่ผู้ขับขี่ต้องการเปลี่ยนเลน แต่มียานพาหนะคันอื่นอยู่ในจุดอับสายตา หรือกำลังเคลื่อนที่เข้าสู่จุดอับสายตา

ถาม: มีตัวเลือกอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง

ตอบ: เรามีอุปกรณ์เสริมแท้จาก Triumph กว่า 50 รายการ เพื่อให้คุณสามารถแต่งรถจักรยานยนต์ให้เหมาะกับแนวทางการผจญภัยของคุณเอง มีสองตัวเลือกที่เก็บสัมภาระแบบผิวแข็ง ซึ่งทั้งสองรุ่นนั้น Givi ผลิตให้กับ Triumph โดยเฉพาะ ที่เก็บสัมภาระแบบขึ้นรูป Trekker จะประกอบไปด้วยกระเป๋าเก็บวัมภาระแบบเปิดจากด้านข้าง/มุม และกล่องเก็บสัมภาระติดท้ายรถความจุ 52 ลิตร ซึ่งสามารถเก็บหมวกนิรภัยแบบเต็มใบได้สองอัน และกระเป๋าเก็บสัมภาระอะลูมิเนียม Expedition และกล่องเก็บสัมภาระติดท้ายรถความจุ 42 ลิตร ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งพื้นผิวแบบปัดเงาหรือสีดำ พร้อมตัวเลือกเสริมพนักพิงหลังผู้โดยสารแบบสองชิ้น นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอุปกรณ์ป้องกันที่ครอบคลุม ทั้งเหล็กกันล้มโลหะสแตนเลสที่บริเวณเครื่องยนต์และตัวถัง รวมถึงสองตัวเลือกเบาะนั่งปรับอุณหภูมิไฟฟ้า และชุดหูฟัง Triumph Sena 50S รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบเสียง Harman/Kardon