TIGER 1200 RALLY PRO เข้าเส้นชัยในการแข่ง TRIAL 24 ชั่วโมง
Tiger 1200 Rally Pro รุ่นใหม่ของ Triumph กลายเป็นรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ขนาดใหญ่รุ่นแรกของโลก ที่ได้มีโอกาสลงแข่งขันและเข้าเส้นชัยในการแข่ง Trial สุดหฤโหด 24 ชั่วโมงที่ออสเตรเลียใต้ ซึ่งเป็นการทดสอบขีดจำกัดสูงสุดด้านความอดทนของทั้งนักขี่และรถจักรยานยนต์
#Tiger1200EpicAdventures
“มีหลายคนบอกว่าพวกเราบ้าไปแล้ว และไม่มีใครเชื่อว่าเราจะสามารถวิ่งได้จนครบแม้แต่รอบเดียว ในขณะที่ต้องวิ่งถึงสี่รอบเพื่อเข้าเส้นชัยในการแข่งรายการนี้"
ขับขี่โดย Cameron Donald ที่ทุกคนรู้จักกันดีในฐานะผู้ชนะเลิศสองสมัยของการแข่งขัน Isle of Man และยังเป็นทั้งนักขี่และนักแข่งผู้ชื่นชอบเส้นทางวิบาก Tiger 1200 Rally Pro ดึงดูดทุกสายตาท่ามกลางเหล่ารถจักรยานยนต์ enduro ขนาดเล็ก ตลอดช่วงสุดสัปดาห์เมื่อวันที่ 9-10 กรกฎาคม
“เมื่อพูดถึงสภาพร่างกาย มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากลำบากที่สุดเท่าที่ผมเคยทำเกี่ยวกับการขับขี่รถจักรยานยนต์” Donald กล่าว “การออกไปขับขี่รถจักรยานยนต์เหล่านี้ในสภาพภูมิประเทศแบบนั้น และต้องขี่ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นสี่รอบ รอบละหกชั่วโมง มันคือการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ และโหดร้ายมาก"
“มีหลายคนบอกว่าพวกเราบ้าไปแล้ว และไม่มีใครเชื่อว่าเราจะสามารถวิ่งได้จนครบแม้แต่รอบเดียว ในขณะที่ต้องวิ่งถึงสี่รอบเพื่อเข้าเส้นชัยในการแข่งรายการนี้ แค่นั้นยังไม่พอ คู่แข่งผู้มากประสบการณ์รายหนึ่ง ซึ่งเคยเข้าเส้นชัยมาแล้วถึง 24 ครั้ง ยังกล่าวไว้ว่า เส้นทางในปีนี้ ถือเป็นเส้นทางที่ยากลำบากที่สุดในเชิงเทคนิค"
"ความสามารถของ Tiger 1200 ในการวิ่งตะลุยไปบนภูมิประเทศดังกล่าว ทำให้ผมทึ่งได้ตลอดเวลา ผมสามารถฝ่าฟันไปได้ทุกอุปสรรค"
“มีกับดักซ่อนอยู่แทบจะทุกที่ อาทิ เชิงผาสูงสี่ฟุต และเส้นทางฝุ่นดินแดงลึกสองฟุต ซึ่งบ่อยครั้งจะทำให้คุณมองไม่เห็นก้อนหินและรากไม้ที่แอบซ่อนอยู่ แต่โมเมนตัมและล้อหน้าขนาด 21 นิ้วที่เน้นการใช้งานบนทางวิบากของ Tiger 1200 ช่วยให้คุณรับมือได้ทุกสถานการณ์
“แม้จะต้องใช้ความระมัดระวังในภูมิประเทศที่แคบและมีความท้าทายในเชิงเทคนิค แต่เมื่อถึงทางตรงโล่งๆ Tiger 1200 ก็พร้อมพุ่งทะยาน ช่วงการย้ายสถานที่นั้นอุ่นสบายสำหรับด้วยปลอกมือจับปรับอุณภูมิไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วคงที่ และระบบกันสะเทือนแบบเซมิแอคทีฟ
“ในการแข่งขันสุดหฤโหดอย่าง Trial 24 ชม. Tiger ต้องรับมือกับอุปสรรคมากมาย แต่รถรุ่นนี้ก็มีความสามารถที่เหนือชั้น และทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ผมอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นนักขี่คนอื่นๆ ต้องหยอดน้ำมันหล่อลื่นและปรับโซ่ขับ สิ่งเดียวที่ผมทำคือยิ้มให้กับเพลาขับของ Tiger เพราะมันไม่จำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษา"
“ผมผิดหวังที่เราไม่สามารถเข้าเส้นชัยได้ทั้งสองคัน แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันครั้งนี้มันยากลำบากแค่ไหน” Donald กล่าว
ประวัติศาสตร์
การแข่ง 24-Hour Trial ซึ่งในอดีตเป็นที่รู้จักกันในชื่อ 24-Hour Reliability Trial ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1924 และเป็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดของออสเตรเลีย ผู้เข้าแข่งขันจะต้องขี่รถจักรยานยนต์ทั้งหมดสี่รอบ รอบละหกชั่วโมง โดยในแต่ละรอบจะประกอบไปด้วยการแข่งขัน 12 ส่วน และจะมีการจับเวลาที่ทำได้ (นักขี่ที่ทำเวลารวมต่ำที่สุดจะเป็นผู้ชนะ) และ 13 ช่วงการย้ายสถานที่ จุดพักเติมน้ำมันสามจุดที่กระจายตำแหน่งเท่าๆ กัน สำหรับใช้เวลา 15 นาทีในการบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ทั่วไป และให้นักขี่ได้พักดื่มน้ำทานอาหารและทำธุระส่วนตัว การแข่งขันนี้ไม่อนุญาตให้มีการช่วยเหลือใดๆ จากบุคคลภายนอก
จากผู้เข้าแข่งขัน 138 รายที่ลงแข่งปีนี้ มีเพียง 91 รายที่เข้าเส้นชัย ในขณะที่ 40 รายทำไม่สำเร็จ (DNF)
เพื่อนร่วมทีมของ Cam Donald ในการแข่งขันรายการนี้ ซึ่งขี่ Tiger 1200 Rally Pro เช่นกัน ได้แก่ “น้องชายต่างมารดา” ของเขา Donald Owen – นักขี่ enduro ระดับ Expert, นักแข่งโมโตครอสเกรด B และนักแข่งบนท้องถนน นอกจากนี้ยังเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์มืออาชีพอีกด้วย
หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมถึง 16 ชั่วโมงในการแข่งขัน Trial 24 ชั่วโมงครั้งแรกของเขา รถของ Own ก็ถูกกระแทกอย่างรุนแรงขณะตกลงไปในหลุมลึกชัน จนเขาไม่สามารถแข่งขันต่อได้ ชายไว้เคราที่ดูเหมือนคนป่าคนนี้ จึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการสนับสนุนให้ Cam สามารถเข้าเส้นชัยได้สำเร็จ
“‘DNF’ คืออักษรย่อที่ไม่มีใครอยากเห็นในการแข่งขัน มันทำให้ผมรู้สึกใจสลาย แต่การสนับสนุนจากเหล่าเพื่อนๆ นักขี่ ที่ทุกคนต่างจอดรถเพื่อลงมาช่วยเหลือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่จุดควบคุม ทำให้ผมรู้สึกประทับใจอย่างแท้จริง” Owen กล่าว “ตอนที่ผมติดอยู่ท่ามกลางความมืดมิด มีชายคนหนึ่งสวมไฟฉายคาดหัวเดินเท้าฝ่าพุ่มไม้เป็นระยะทางเกือบสามกิโลเพื่อมาช่วยผม ผมจะไม่มีวันลมเรื่องนี้เลย
“วัตถุประสงค์ใหม่ของเราคือการสนับสนุน Cam ต่อไป ความสามารถของเขาในการควบคุมระดับการขับขี่ให้เหมาะสม – ไม่หนักหน่วงเกินไป แต่ก็ไม่ช้าเกินไป – และการรักษาสภาพจิตใจให้สมบูรณ์ในการขับขี่ท่ามกลางความมืดมิด เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก”
Cam Donald อธิบายเทคนิคของเขาในการขี่รถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ขนาดใหญ่ในการแข่ง enduro ว่าสิ่งสำคัญคือโมเมนตัม “ตราบใดที่คุณยังพุ่งไปข้างหน้า ทุกอย่างจะเรียบร้อย
“การขับขี่ด้วยโหมด Off-Road Pro ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการส่งกำลังของ Tiger 1200 Rally Pro จะดีเยี่ยม เป็นเส้นตรง และใช้งานง่าย – ซึ่งลงตัวที่สุดสำหรับการวิ่งในสภาพภูมิประเทศที่แคบและมีความท้าทายทางเทคนิค ซึ่งอาจเป็นบททดสอบที่ยากลำบากของรถขนาด 250!
“ผมรู้สึกผูกพันกับรถจักรยานยนต์คันนั้นเป็นพิเศษ เราดิ้นรนไปด้วยกัน เถียงกัน หัวเราะไปด้วยกัน ร้องไห้ไปด้วยกัน แต่ผมกับรถคู่ใจกันนี้ ก็กอดคอกันฟันฝ่าอุปสรรคไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย และเราก็เข้าเส้นชัยไปด้วยกัน ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะทำได้สำเร็จ! ผมรู้สึกเหมือนผมเพิ่งจะชนะเลิศการแข่งขันเลยล่ะ!”
การเตรียมความพร้อมรถจักรยานยนต์ก่อนการแข่งขันสุดหฤโหดครั้งนี้ แทบไม่มีอะไรยุ่งยากเลย Tiger 1200 Rally Pro's ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเหล็กกันล้มช่วงบนของ Triumph, ยางวิบาก Knobby ที่สามารถใช้วิ่งบนถนนได้อย่างถูกกฎหมายเพื่อการยึดเกาะถนนที่ดีที่สุด และไฟไลท์บาร์ LED ขนาด 8.0 นิ้ว เพื่อวิสัยทัศน์ที่ดียิ่งขึ้นในช่วงกลางคืน (เป็นไปตามกฎระเบียบของการแข่งขัน) ขาตั้งคู่และฐานเบาะผู้โดยสารถูกถอดออก เพื่อเพิ่มระยะห่างจากพื้น
น้ำหนักที่เบาลงและกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก พร้อมการบังคับรถและสเปคระดับแนวหน้า รวมทั้งข้อดีทุกประการของสมรรถนะเครื่องยนต์สามสูบด้วยเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane รุ่นใหม่ของ Triumph, Tiger 1200 รุ่นใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เป็นรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ขนาดใหญ่ที่มีความสามารถสูงสุด ว่องไวและคล่องตัวที่สุด