Skip to main content

โครงการ TRIUMPH TE-1

สร้างปรากฏการณ์อีกระดับของการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งสหราชอาณาจักร

“ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เดินหน้าพัฒนาโปรโตไทป์ระบบส่งกำลังไฟฟ้า ระยะที่ 2 อย่างต่อเนื่อง

Project Triumph TE1 - Prototype electric motorcycle sketches

 

 

“ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” ได้เปิดเผยแผนการอันน่าตื่นเต้นของการพัฒนาระบบส่งกำลังไฟฟ้าและแบตเตอรี่ซึ่งเป็นนวัตกรรมขั้นสูง อีกทั้งได้เปิดเผยแบบร่างของโปรโตไทป์ในโปรเจค Triumph TE-1 เป็นครั้งแรก ซึ่งความร่วมมือนี้นับเป็นระยะที่ 2 นี้ จากการทำงานร่วมกันทั้งหมด 4 ระยะ ในการออกแบบและวิศวกรรมของอังกฤษ ได้บรรลุข้อสรุปที่ประสบความสำเร็จแล้ว

 

 

โดยการบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการ Triumph TE-1 ในเดือนพฤษภาคม ปี 2562 ที่ผ่านมา มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเฉพาะทาง และโซลูชันแบบบูรณาการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นระหว่างไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ บริษัท Williams Advanced Engineering บริษัท Integral Powertrain และศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริค (The University of Warwick) ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) โดยความร่วมมือดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จแล้ว

ความสำเร็จของความร่วมมือในการออกแบบแบตเตอรี่และระบบส่งกำลัง ได้แสดงให้เห็นผ่านการทดสอบประสิทธิภาพเบื้องต้น ที่บรรลุผลแบบเกินเกณฑ์มาตรฐานและเกณฑ์มาตรฐานของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ในขณะที่ด้านการพัฒนาสมรรถนะและประสิทธิภาพ ทำให้โครงการ Triumph TE-1 สามารถบรรลุประสงค์ของความร่วมมือได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมอังกฤษ นอกจากนี้ยังช่วยให้ข้อมูลสำคัญที่ช่วยในการวางแผนพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตจากไทรอัมพ์

การประกาศความสำเร็จในระยะที่ 2 ผ่านการเปิดเผยโปรโตไทป์ของแบตเตอรี่และระบบส่งกำลัง ผลการทดสอบเบื้องต้นที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงแบบร่างขั้นแรกของแนวคิดสำหรับโปรโตไทป์ ของรถจักรยานยนต์ Triumph TE-1 ที่จะถูกสร้างขึ้นในช่วงท้ายของการทำงานในระยะถัดไป 

ความสำเร็จของโครงการในปัจจุบัน ได้แก่ ผลการทดสอบที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีแบตเตอรี่ และสมรรถนะของระบบส่งกำลังที่บรรลุเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งถูกกำหนดโดยสภายานยนต์แห่งสหราชอาณาจักร (UK Automotive Council) ในปี 2568 ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการในการส่งมอบนวัตกรรมเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของสมรรถนะรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริง

โครงการ TRIUMPH TE-1 เป็นความร่วมมือพิเศษระหว่างผู้นำด้านอุตสาหกรรมและวิชาการรายใหญ่ทั้ง 4 แห่งของสหราชอาณาจักร ได้แก่ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด บริษัท Williams Advanced Engineering บริษัท Integral Powertrain แผนก e-Drive และศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริค (University of Warwick)

วัตถุประสงค์ของโครงการตลอดระยะเวลาสองปี เพื่อการพัฒนาขีดความสามารถของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ขับเคลื่อนนวัตกรรม ความสามารถและทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ ๆ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่อุตสาหกรรมและการออกแบบของประเทศอังกฤษ

โครงการ Triumph TE-1 ได้รับทุนสนับสนุนผ่าน Innovate UK โดยเป็นทุนจากสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร 

 
 

 

 

มร. นิค บลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดเผยว่า “ความสำเร็จของการร่วมมือระยะที่ 2 และผลลัพธ์ที่ได้ เผยให้เห็นถึงอนาคตอันน่าตื่นเต้นของศักยภาพยานยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านนวัตกรรมของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการของอังกฤษ ผลลัพธ์ของโครงการนี้จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคต ตลอดจนความพยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลักดันสังคมไปสู่การคมนาคมที่ยั่งยืน ยิ่งไปกว่านั้น ความร่วมมือครั้งสำคัญในโครงการนี้ จะเป็นหนึ่งในรากฐานของการวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ซึ่งจุดมุ่งหมายสูงสุดเพื่อส่งมอบสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องการจากรถไทรอัมพ์ของพวกเขา ได้แก่ ความสมบูรณ์แบบทั้งในด้านสมรรถนะ การควบคุม และการใช้งานในโลกความเป็นจริง ผ่านคาแรคเตอร์ที่แท้จริงของไทรอัมพ์”

 

 

Step

ลงทะเบียนเพื่อรับชม

ไม่พลาดทุกข่าวสาร และข้อมูลล่าสุดจากไทรอัมพ์

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแสดงความรับผิดชอบต่อข้อมูลของเรา ไทรอัมพ์ให้ความสำคัญและเคารพในข้อมูลที่เรามีเกี่ยวกับคุณเสมอมา

ผลลัพธ์ของโครงการ Triumph TE-1 – ระยะที่ 2
โปรโตไทป์แบตเตอรี่และระบบส่งกำลัง

 

 

 

WILLIAMS ADVANCED ENGINEERING (WAE)

ตามข้อกำหนดด้านคุณลักษณะ เราได้กำหนดรูปแบบเทคโนโลยีเซลล์และโครงสร้างแบตเตอรี่ที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการพัฒนาสมรรถนะให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ซึ่งเมื่อใช้วัตถุประสงค์ดังกล่าวเป็นกรอบการดำเนินงาน เราได้ปรับรูปแบบโมดูลแบตเตอรี่ให้เหมาะสม เพื่อสร้างความสมดุลของมวลและการวางตำแหน่งภายในโครงรถต้นแบบ โดยคำนึงถึงจุดศูนย์ถ่วง พื้นที่ และการทำงานของระบบส่งกำลัง และการชาร์จแบตเตอรี่
นอกจากรูปแบบโมดูลแล้ว เรายังได้พัฒนาชุดควบคุมยานพาหนะแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งถูกรวมอยู่ในชุดแบตเตอรี่ เพื่อลดน้ำหนักและขนาดให้เหลือน้อยที่สุด ในขณะเดียวกันบริษัท WAE ยังได้สร้างนวัตกรรมซอฟต์แวร์การจัดการแบตเตอรี่ เพื่อให้มั่นใจว่ามีการจ่ายพลังงานที่สัมพันธ์กับสมรรถนะของแบตเตอรี่
ผลลัพธ์ของความร่วมมือในระยะที่ 2 สำหรับ WAE คือ แบตเตอรี่ที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยผลลัพธ์ด้านสมรรถนะล้ำกว่าคู่แข่งในตลาดในแง่ของความหนาแน่นของพละกำลังและพลังงาน

มร. ดียร์ อาร์แดช ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพาณิชย์ บริษัท Williams Advanced Engineering กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมโครงการนี้ เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบควบคุม ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ให้ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ลดลงขณะแบตเตอรี่ต่ำ ด้วยข้อดีของความกะทัดรัด และน้ำหนักที่เบา ทำให้เราสามารส่งมอบสมรรถนะทั้งหมดให้แก่ผู้ขับขี่ได้ตลอดเวลา (โดยไม่ต้องคำนึงถึงการชาร์จแบตเตอรี่) รวมทั้งความเป็นผู้นำในคลาส นอกจากนี้ เรายังมุ่งเน้นไปที่การผลักดันขอบเขตของการลดมวลรวมและปรับตำแหน่งโครงสร้างให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมรถ พร้อมกันนี้ เรายังได้ขับเคลื่อนขีดจำกัดในด้านสมรรถนะของแบตเตอรี่ การสร้างความสมดุลทั้งการออกแบบเพื่อการเร่งความเร็วและช่วงรอบ โดยมีการจำลองรูปแบบการขับขี่ในสนามแข่ง หรือเรียกได้ว่ายังคงรักษาความดุดันไว้เท่าที่สามารถทำได้ ในขณะที่ความหนาแน่นของพลังงานแบตเตอรี่รุ่นใหม่นี้จะเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีที่มีอยู่ โดยสามารถส่งมอบพละกำลังที่มากขึ้นแก่ผู้ขับขี่ พร้อมทั้งการใช้งานที่ยาวนานขึ้น บริษัทฯ ยังได้ออกแบบและพัฒนาชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่รวมระบบการจัดการแบตเตอรี่ เข้ากับฟังก์ชันการควบคุมรถจักรยานยนต์ไว้ในชุดเดียวกัน นี่เป็นครั้งแรกในตลาดที่ผู้ขับขี่จะได้รับประโยชน์ทั้งจากชุดแบตเตอรี่และการรวมเอาคุณสมบัติต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ส่งผลให้สมรรถนะและระยะทางที่วิ่งได้ดียิ่งขึ้น” 

 
 

 

INTEGRAL POWERTRAIN LTD.’S E-DRIVE DIVISION 

ประสบการณ์ของเราในการออกแบบและผลิตมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ที่ทันสมัยช่วยให้เราพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการ Triumph TE-1 ขึ้นไปอีกขั้น โดยในระยะที่ 1 เราได้รวมมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ที่โดยปกติทำงานแบบแยกจากกันเข้าด้วยกันเป็นชุดเดียว ในขนาดกะทัดรัด ซึ่งการรวมเข้าด้วยกันนี้ช่วยลดมวลและปริมาตรของระบบขับเคลื่อน โดยเราใช้การลดพื้นที่บนตัวรถ รวมถึง ลดน้ำหนัก ลดจุดติดตั้งอุปกรณ์ ระบบหล่อเย็น  และระบบเชื่อมต่อแรงดันไฟฟ้าแรงดันสูง
อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่เป็นนวัตกรรมการผสมผสานมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ดังกล่าวยังสามารถปรับขนาดได้ โดยระดับของกำลังสามารถเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขนาด แรงบิดของมอเตอร์ที่สูงขึ้น เป็นต้น ซึ่งเมื่อรวมกับเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัยของเรา จะเห็นได้ถึงผลลัพธ์อันน่าตื่นเต้น ด้วยมอเตอร์ที่มีความหนาแน่นของกำลังไฟฟ้าถึงสองเท่าจากที่ตั้งเป้าไว้โดยสภายานยนต์แห่งสหราชอาณาจักรในปี 2568
นอกจากนี้ เรายังได้นำเทคโนโลยีซิลิกอนคาร์ไบด์สวิตช์ขั้นสูงมาใช้ในอินเวอร์เตอร์ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานในอินเวอร์เตอร์และส่งผลให้ระบบขับเคลื่อนมีประสิทธิภาพในการจ่ายพลังงานและช่วงรอบที่ดีขึ้น ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดความร่วมมือในระยะที่ 2 เรามีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้สร้างต้นแบบมอเตอร์ใหม่ที่ใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการตรวจสอบเชิงเปรียบเทียบและสามารถส่งมอบสมรรถนะที่ดีที่สุดในทุกด้าน
มร.แอนดรูว์ ครอส หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของบริษัท Integral Powertrain กล่าวว่า “หนึ่งในปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อสมรรถนะและการควบคุมรถจักรยานยนต์คือมวล ดังนั้น Integral Powertrain จึงมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงในการออกแบบมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ รวมถึงการถอดสายไฟฟ้าแรงสูงที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งข้อดีเหล่านี้ทำให้เราสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่ความกะทัดรัดมากขึ้น และน้ำหนักที่เบากว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน โดยมอเตอร์ให้กำลัง 130 กิโลวัตต์ หรือเกือบ 180 แรงม้า แต่มีน้ำหนักเพียงแค่ 10 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเมื่อเทียบแล้วน้ำหนักประมาณชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีซิลิกอนคาร์ไบด์สวิตช์ในอินเวอร์เตอร์ที่สามารถปรับขนาดได้ของเราจะช่วยกำหนดมาตรฐานใหม่ของประสิทธิภาพรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ทำให้น้ำหนักโดยรวมที่เบาลง พร้อมด้วยประสิทธิภาพและช่วงรอบที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน เราให้ความสำคัญต่อการออกแบบสำหรับการผลิตและประกอบ เพื่อให้ประสิทธิภาพอันทรงพลังของมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ สร้างความคุ้มค่าในด้านต้นทุน ท้ายที่สุดแล้ว ผลงานครั้งนี้จะกลายเป็นระบบส่งกำลังอันเหนือชั้นของอุตสาหกรรม ที่จะช่วยกำหนดอนาคตของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ทั้งนี้ เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Triumph TE-1 ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของอุตสาหกรรมแห่งสหราชอาณาจักร”

 
 

 

 WMG, AT THE UNIVERSITY OF WARWICK

ที่ศูนย์ WMG เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในโครงการความร่วมมือ Triumph TE-1 ในช่วงการทำงานระยะที่ 1 และระยะที่ 2 เพื่อพัฒนาโมเดลโดยจำลองระบบการทำงานของรถจักรยานยนต์ซึ่งรวมถึงแบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบควบคุมยานพาหนะ โดยในการทำงานขั้นต้นจะช่วยให้เราสามารถประเมินความถูกต้องของคุณลักษณะกับการเลือกส่วนประกอบที่ต้องการ ให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ช่วงรอบและความเร็วสูงสุดกับโมเดลตั้งต้น ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ไทรอัมพ์สามารถดำเนินการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ในระยะเริ่มต้นก่อนที่ฮาร์ดแวร์จะจะถูกสร้างขึ้นด้วยโปรแกรมการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าในการใช้งานจริงจะสามารถส่งมอบประสิทธิภาพได้อย่างครบถ้วน โดยล่าสุดเราได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ส่งกำลังโดยใช้ระบบส่งกำลังต้นแบบ IPT เพื่อให้มั่นใจว่าการจำลองของเรามีความแม่นยำและเพื่อยืนยันว่ามอเตอร์สามารถทำงานได้ตามระบบที่ออกแบบไว้ นอกจากนี้ เรายังให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายในอนาคต โครงสร้างพื้นฐานในระบบการชาร์จ และกลยุทธ์การรีไซเคิลส์แก่ไทรอัมพ์ ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในแพลตฟอร์มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต 
มร. ทรอง ควาง ดินห์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบบการจัดการและควบคุมพลังงาน ศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริค (University of Warwick) เผยว่า การสร้างแบบจำลองเบื้องต้นโดยใช้คอมพิวเตอร์ในการเริ่มต้นของระยะที่ 1 ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเลือกส่วนประกอบนั้นเหมาะสม เพื่อให้บรรลุสมรถถนะเป้าหมายตามที่พันธมิตรในโครงการความร่วมมือ Triumph TE-1 Prototype ได้กำหนดร่วมกัน โดยเรายังคงดำเนินการสร้างแบบจำลองดังกล่าวต่อในความร่วมมือระยะที่ 2 ของโครงการ เพื่อพัฒนาโมเดลให้มีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้เราและพันธมิตรในโครงการสามารถจำลองส่วนประกอบอื่น ๆ ของจักรยานยนต์ได้ เช่น ระบบเบรก ระบบคันเร่งไฟฟ้า ระบบไฟ และอื่น ๆ อีกทั้งสามารถจำลองการขับขี่เสมือนจริงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา ก่อนการออกแบบส่วนประกอบอื่น ๆ จะเสร็จสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น เราได้สร้างสายเชื่อมต่อกับชุดควบคุมทั้งหมด เพื่อนำมาใช้กับโปรแกรมการตรวจสอบการออกแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานของแต่ละส่วนอยู่ในช่วงรอบที่กำหนด

 
 

 

TRIUMPH MOTORCYCLES

ตลอดความร่วมมือในระยะที่ 2 ไทรอัมพ์ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ควบคุมยานพาหนะขั้นสูงใหม่ล่าสุด ซึ่งรวมเอาระบบไฟฟ้าทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบคันเร่งไฟฟ้าตอบสนองตามปกติ ระบบเบรกแบบ Regenerative Braking การควบคุมการยึดเกาะถนน ตลอดจนทุกมิติที่ลูกค้าคาดหวังจากรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูงอย่างไทรอัมพ์ นอกจากนี้เราได้รวบรวมฟังก์ชันด้านความปลอดภัยระดับชั้นนำไว้ในซอฟต์แวร์นี้ และให้การสนับสนุนศูนย์ WMG ในการทดสอบรถจักรยานยนต์ รวมถึงยังได้พัฒนาจอแสดงผลของโมเดลต้นแบบ นอกเหนือจากการพัฒนาระบบไฟฟ้าและระบบการควบคุมแล้ว เรายังได้ออกแบบโครงรถต้นแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งรวมถึงเฟรมหลักและเฟรมด้านหลังที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสม ควบคู่ไปกับชุดแบตเตอรี่และมอเตอร์ซึ่งจะได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมในความร่วมมือระยะที่ 3 และถูกใช้เป็นแพลตฟอร์มทดสอบ (Mule Test)ในระยะที่ 4 อย่างไรก็ดี ในระหว่างการพัฒนาโครงรถ เรายังคงคำนึงถึงทั้งการออกแบบระบบส่งกำลัง และรูปลักษณ์ในขั้นสุดท้ายของ Triumph TE-1 Prototype ผ่านภาพวาดที่เรายินดีเปิดเผยเป็นครั้งแรกในวันนี้
มร.สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์  กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของเราสำหรับโครงการ Triumph TE-1 คือการรวบรวมความคิดเห็นของลูกค้าที่เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องการจากรถจักรยานยนต์ของพวกเขา รวมทั้งทำความเข้าใจว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ผู้ขับขี่ต้องการได้อย่างไร ซึ่งรวมไปถึงการคำนึงถึงประเภทของการขับขี่ ระยะทาง ความรู้สึก ตลอดจนลักษณะของการส่งกำลังและแรงบิดไปพร้อมกับการออกแบบด้านสรีรศาสตร์เพื่อการขับขี่และการควบคุมจักรยานยนต์ เมื่อนำความคิดเห็นทั้งหมดมาพิจารณา เราจึงเริ่มดำเนินการออกแบบโครงรถ โดยมุ่งเน้นไปที่การรวมเอาทุกอย่างมารวมกันใน Triumph TE-1 Prototype ในรูปแบบที่สามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น ดูแปลกใหม่ แต่ผู้ขับขี่ยังรู้สึกคุ้นเคย อีกทั้งเราได้เริ่มกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันของระบบส่งกำลังและแบตเตอรี่ ผ่านการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อส่งมอบพละกำลังและการตอบสนองคันเร่งไฟฟ้าที่เร้าใจ ซึ่งให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและให้ความรู้สึกการใช้งานที่ง่าย สะดวกสบายต่อผู้ขับขี่ โดยภาพรวมในด้านรูปลักษณ์แล้ว เราต้องการสร้างปรากฏการณ์ที่แปลกใหม่ น่าตื่นเต้น ทั้งยังเป็นวิวัฒนาการของแบรนด์ไทรอัมพ์ที่สอดแทรก DNA อันโดดเด่น และแน่นอนว่าเราไม่ได้พัฒนาโครงการนี้ขึ้นมาเพียงแค่เพื่อสร้างความแตกต่างเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องการสร้างโครงการที่มีคุณค่าในตัวเองด้วย ทั้งนี้ จากความคืบหน้าของโครงการทั้งหมดนี้ร่วมกับพันธมิตร เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นความคืบหน้าของแบบจำลองรถอันน่าตื่นเต้น ซึ่งได้รวมเอาเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยที่จำเป็นต่อการวางกลยุทธ์ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตจากไทรอัมพ์ ทั้งนี้ ทีมงานมีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการสร้างนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง และมีไดนามิค ร่วมกับสุดยอดพันธมิตรซึ่งในท้ายที่สุดจะสามารถนำพาวงการวิศวกรรมและการออกแบบของสหราชอาณาจักรไปสู่ระดับแนวหน้าของการออกแบบยานยนต์สองล้อในอนาคต”